เลือกใช้งานเหล็กเส้นกลมให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง

เลือกใช้งานเหล็กเส้นกลมให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง

เลือกใช้งานเหล็กเส้นกลมให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง โดยปกติแล้วเหล็กเส้นกลม ในกลุ่มวิศวกร ผู้รับเหมาและช่างก่อสร้างจะนิยมนำเหล็กเส้นกลมมาใช้เป็นเหล็กเสริมในงานโครงสร้างต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เช่น ปลอกเสา ปลอกคาน โครงถนน หรือตะแกรงเหล็กสำหรับงานพื้น รวมไปถึงนำมาใช้ในงานก่อสร้างขนาดเล็กและขนาดกลาง เป็นต้น ซึ่งเหล็กเส้นกลม คือ เหล็กเส้นที่มีลักษณะหน้าตัดกลม และลักษณะพื้นผิวที่เรียบเกลี้ยง ไม่มีรอยปริแตก ไม่มีปีก ไม่เบี้ยว และไม่มีลูกคลื่น ตลอดความยาวของเส้น เหล็กเส้นกลมมีคุณสมบัติที่คงทน แข็งแรง และสามารถรับแรงดึงที่จุดครากได้ประมาณ 2400 ksc. หรือชั้นคุณภาพ SR24 จึงทำให้เหล็กเส้นกลมเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในการยึดเหนี่ยวและถ่ายแรงระหว่างเหล็กและคอนกรีตได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าเหล็กเส้นกลมยังจำแนกชนิดของเหล็กเส้นกลมอีก  4 ประเภท แตกต่างกันที่ความยาวและน้ำหนักของเหล็กเส้นกลม สำหรับผู้รับเหมาที่กำลังเช็คขนาดของเหล็กเส้นกลม ที่เหมาะกับงานก่อสร้างสามารถดูได้จากขนาดแต่ละแบบ

รู้จักรอกสลิงไฟฟ้าด้วย 5 ข้อนี้

รู้จักรอกสลิงไฟฟ้าด้วย 5 ข้อนี้

จักรอกสลิงไฟฟ้าด้วย 5 ข้อนี้ รอกถูกนำมาใช้งานโดยมนุษย์ตั้งแต่อดีตเพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มนุษย์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ แต่ในอดีตเป็นการใช้งานด้วยมือ โดยใช้มือชักรอกหรือเชือก เพื่อนำสิ่งของขึ้นไปบนที่สูง แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้มีการพัฒนาจนกลายมาเป็นรอกไฟฟ้า ซึ่งรอกไฟฟ้าเป็นเครื่องจักรที่ช่วยในการผ่อนแรงและยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก สามารถยกได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน มีทั้งชนิดที่เป็นโซ่และเป็นเชือกลวด นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายในขณะทำงาน รอกไฟฟ้า แบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่ รอกโซ่ไฟฟ้าและรอกสลิงไฟฟ้า

ข้อดีและข้อเสียเหล็กเส้น

ข้อดีและข้อเสียเหล็กเส้น

สำหรับงานก่อสร้างทั้งงานก่อสร้างที่เป็นงานทั่วไป งานขึ้นรูป หรืองานก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ แน่นอนว่า เหล็กเส้นเป็นวัสดุที่มีสำคัญสำหรับใช้เสริมความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างที่ต้องใช้รับแรงทั้งงานคอนกรีตและงานก่ออิฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่ทำงานก่อสร้างจะรู้จักเป็นอย่างดี โดยเหล็กเส้นมีบทบาทสำคัญในงานก่อสร้างมากและมีความจำเป็นที่ต้องนำมาใช้ในงานก่อสร้างแทบทุกงานเลยก็ว่าได้

หลักการใช้งานรอกสลิงไฟฟ้าและรอกโซ่ไฟฟ้า

หลักการใช้งานรอกสลิงไฟฟ้าและรอกโซ่ไฟฟ้า

หลักการใช้งานรอกสลิงไฟฟ้าและรอกโซ่ไฟฟ้า รอกไฟฟ้าเป็นรอกโซ่ที่ใช้ไฟฟ้าในการชักรอก โดยสามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างง่ายดาย มีน้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย รอกไฟฟ้าเหมาะกับการใช้งานในระหว่างก่อสร้าง โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รอกสลิงไฟฟ้าและรอกโซ่ไฟฟ้า ซึ่งการนำรอกไฟฟ้าไปใช้งานควรคำนึงถึงความเหมาะสมและลักษณะการใช้งาน ควรเลือกรอกไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน และควรตรวจสอบการรองรับน้ำหนักสูงสุดของรอกไฟฟ้า เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยของผู้ใช้งาน รอกไฟฟ้าทั้งสองแบบนั้นมีหน้าที่ที่เหมือนกัน แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ถ้าเราใช้งานรอกไฟฟ้าผิดประเภทก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายและความเสียหายขึ้นได้ วันนี้เราจึงจะมาพูดถึง หลักการใช้งานรอกสลิงไฟฟ้าและรอกโซ่ไฟฟ้าให้ถูกต้อง

รอกไฟฟ้ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง

รอกไฟฟ้ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง

รอกไฟฟ้ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง รอกไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงในการยกวัตถุที่มีน้ำหนักมาก โดยใช้พลังงานไฟฟ้าในการสร้างแรงบิดหมุนชุดเพลามอเตอร์และส่งกำลังที่ให้ชุดเกียร์ทดรอบ เพื่อเพิ่มแรงบิดส่งไปที่แกนม้วนโซ่หรือสลิงและทดสอบโซ่หรือสลิงของตัวรอกไฟฟ้า หลังจากนั้นเพิ่มกำลังยกน้ำหนักอีกครั้งโดยผ่านชุดมูเลย์ด้านบนและด้านล่างที่ยึดกับชุดตะขอเกี่ยว ส่วนวิธีการคอนโทรลการทำงานของรอกไฟฟ้านั้นก็ทำได้โดยการใช้งานตู้ไฟและชุดอุปกรณ์แมคเนติกในการสั่งงานผ่านสวิตช์คอนโทรลมือถือหรือชุดรีโมทคอนโทรล โดยรอกไฟฟ้านั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ได้แก่ รอกโซ่ไฟฟ้าและรอกสลิงไฟฟ้า โดยรอกแต่ละประเภทนั้นก็จะมีประโยชน์ในการทำงานที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะพามารู้จักข้อดีและข้อเสียของรอกไฟฟ้าแต่ละประเภทกัน

6 ข้อควรตระหนักใน การเลือกรอกไฟฟ้า ให้ได้มาตรฐาน

6 ข้อควรตระหนักในการเลือกรอกไฟฟ้าให้ได้มาตรฐาน

6 ข้อควรตระหนักในการเลือกรอกไฟฟ้าให้ได้มาตรฐาน รอกไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เครื่องทุ่นแรงโดยอาศัยพลังงานไฟฟ้ากับเครื่องจักรกลขนาดเล็ก ทำงานคู่กับรถ เพื่อที่จะยก ขน สิ่งของ สินค้า ลักษณะการทำงาน ยกได้ทั้งในแนวตรงและทางโค้ง มีทั้งชนิดโซ่และชนิดเชือกลวด จุดเด่นของรอกไฟฟ้าคือ น้ำหนักเบา ทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะในระหว่างก่อสร้าง โดยต้องออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อสะดวกต่อการบำรุงดูแลรักษา และปลอดภัยต่อการใช้งาน ซึ่งการนำรอกไฟฟ้าไปใช้งานนั้น ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและลักษณะการใช้งาน อีกทั้งควรเลือกรอกไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน ควรตรวจสอบการรองรับน้ำหนักสูงสุดของรอกไฟฟ้า เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน