7 จุดที่ควรบำรุงรักษาสำหรับรถตัดอ้อย ยืดอายุการใช้งานที่ยาวนาน
7 จุดที่ควรบำรุงรักษาสำหรับรถตัดอ้อย ยืดอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในวันนี้ แอดมินจะพาผู้อ่านทุกท่านมาดูถึง 7 จุดที่ควรบำรุงรักษาสำหรับรถตัดอ้อย ยืดอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมข้อมูลในการตรวจเช็กแต่ละส่วนสำหรับรถตัดอ้อยกันค่ะ เพื่อให้เครื่องจักรกลเหล่านี้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งอาจจะต้องมีการทำงานหนักแบบลากยาว ถ้าหากเกษตรกรผู้ใช้งานรู้วิธีการดูแลและบำรุงรักษารถตัดอ้อยอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้รถตัดอ้อยนั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและอยู่กับเรายาวนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
รถตัดอ้อย ถ้าต้องการให้มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องซ่อมแซมกันบ่อย ๆ และพร้อมเสมอสำหรับการใช้งาน จะต้องให้ความสำคัญทั้งการดูแลรักษาแบบประจำวัน และตามระยะเวลา ดังนี้
1. แบตเตอรี่
ควรตรวจน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทุกวัน โดยให้จอดรถตัดอ้อยบนพื้นราบขณะตรวจ ถ้าระดับน้ำกลั่นต่ำ ให้ถอดฝาปิดออกแล้วเติมน้ำกลั่นลงไปจนได้ระดับตามที่ตัวเครื่องกำหนดมาค่ะ
2. ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
ควรเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เต็มถังภายในตอนเย็นหลังจากใช้รถตัดอ้อยเสร็จ เพื่อให้รถตัดอ้อยพร้อมที่จะทำงานได้ในวันรุ่งขึ้นทันทีนั่นเองค่ะ แต่คุณผู้อ่านอาจจะต้องระวังไม่ให้น้ำมันเชื้อเพลิงมีสิ่งสกปรกและน้ำเจือปนด้วยนะคะ
3. ระบบระบายความร้อน
น้ำในหม้อน้ำควรจะเต็มตลอดเวลา อย่าให้เศษหญ้า หรือใบไม้ติดอยู่หน้าช่องรังผึ้งหม้อน้ำ ควรตรวจความตึงของสายพานให้ถูกต้อง ถ้าสายพานตึงเกินไป จะทำให้ลูกปืนที่ปั๊มน้ำและไดนาโมหลวม ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้สายพานเสียเร็ว ส่วนถ้าสายพานหย่อนเกินก็จะทำให้เครื่องร้อนมากได้ค่ะ
4.น้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้าย
ให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์และน้ำมันเฟืองท้ายในห้องเกียร์ และห้องเฟืองท้ายให้อยู่ขีดสูงของไม้วัดระดับอยู่เสมอ
5.หม้อกรองอากาศ
ถ้าหม้อกรองอากาศเป็นชนิดแช่น้ำมัน ซึ่งระดับน้ำมันควรจะอยู่ในระดับที่ถูกต้องเสมอ หม้อกรองชนิดนี้จะกรองฝุ่นละอองออกจากอากาศ โดยอากาศจะถูกดูดผ่านน้ำมัน ซึ่งน้ำมันจะจับฝุ่นละอองออกจากอากาศอีกทีหนึ่ง ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนน้ำมันใหม่ทันที ให้เลือกใช้น้ำมันเครื่อง ถ้าดูแล้วน้ำมันเปลี่ยนสีเพราะฝุ่นละอองมาก คุณผู้อ่านอาจจะทำการเปลี่ยนน้ำมันมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน เป็นต้นค่ะ
6. น้ำมันเครื่อง
ในการตรวจสอบน้ำมันเครื่องที่ทำทุกวัน คุณจะต้องดู 2 อย่าง คือ ดูว่าระดับน้ำมันเครื่องถูกต้องหรือไม่จากไม้วัดระดับน้ำมัน และดูสภาพของน้ำมันเครื่อง ถ้าน้ำมันเครื่องดำมากก็ควรจะเปลี่ยนใหม่ ควรถ่ายน้ำมันเครื่องออกขณะที่เครื่องยังร้อน และรถแทรคเตอร์จอดอยู่บนพื้นที่ราบ
7. น็อตและสลัก
ในขณะปฏิบัติงานรถแทรคเตอร์จะมีการสั่นสะเทือนค่อนข้างมาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้น็อตและสลักหลวม ทำให้จะต้องตรวจสอบทุกวันและขันให้แน่นเสมอ
Thai-A เรามีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรมเกี่ยวกับพืช เช่น รถตัดอ้อย ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การเพิ่มคุณภาพ การแปรสภาพผลผลิตเกษตร สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถตัดอ้อย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร : 02-026-3854
E-mail : webmaster@taecgroup.com
Facebook : thaiagency
Line ID : @thaiagency