ข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น จะมีเม็ดข้าวที่สั้น และอวบ และจะมีความเหนียวมากกว่า ข้าวพันธุ์ไทยที่จะมีความเรียวยาวค่ะ และหากผู้อ่านอยากปลูกข้าวพันธุ์ญี่ปุ่นในประเทศไทยหล่ะก็ วันนี้แอดมินจะแนะนำ 2 ข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น ที่สามารถปลูกในประเทศไทยได้กันค่ะ
- ปลูกข้าวพันธุ์ไหนดี 7 ข้าวพันธุ์ กข. ในนาสวนที่ไวต่อแสง
- 7 ข้าว กข. ข้าวพันธุ์สวนไม่ไวต่อแสง
- รถเกี่ยวนวดข้าวเล็ก ราคาเบา ๆ ใครก็เป็นเจ้าของได้
1. ข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.1 (Khao’ Yipun DOA1)
ในปี พ.ศ. 2530 สถานีทดลองข้าวพานได้รวบรวมพันธุ์ข้าวญี่ปุ่นจากแหล่งต่างๆ และส่วนหนึ่งรับเมล็ด
พันธุ์ข้าวเพิ่มเติมจากอดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านข้าว เพื่อนำไปปลูกขยายเมล็ดพันธุ์ และได้ทำการศึกษามา จนกระทั่งพบว่าพันธุ์ซาซานิชิกิ (Sasanishiki) มีคุณภาพใกล้เคียงกับพันธุ์โคชิฮิการิ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวชั้น 1 ของญี่ปุ่น ซึ่งมีความเหมาะสมและปลูกได้ดีในเขตภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และให้ผลผลิต 718 กิโลกรัม ต่อไร่
ลักษณะของข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.1
- เป็นข้าวเจ้านาสวนไม่ไวต่อช่วงแสง สูงประมาณ 88 เซนติเมตร
- อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 120 วัน
- ต้นค่อนข้างแข็ง ทรงกอตั้งตรง ใบแก่ช้าสีเขียวและมีขน กาบใบและปล้องสีเขียว ใบธงค่อนข้างตั้งตรง รวงแน่น ระแง้ถี่ คอรวงสั้น
- เมล็ดข้าวเปลือกสีฟาง มีขนสั้น ยอดเมล็ดสีฟางและมีหางเล็กน้อย
- เมล็ดข้าวกล้อง ยาว 5.18 มิลลิเมตร มีท้องไข่ระดับปานกลาง
- ปริมาณอมิโลส 16.4%
- เมล็ดข้าวเปลือก ยาว x กว้าง x หนา = 7.4 x 3.5 x 2.2 มิลลิเมตร
ลักษณะเด่นของข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.1
- ให้ผลผลิตสูงในสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์
- สามารถปรับตัวได้ดีในพื้นที่ดินนาเขตภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
- ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีกว่าข้าวญี่ปุ่นพันธุ์อื่นๆ
- คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดีตรงตามมาตรฐานสำหรับผู้บริโภคข้าวญี่ปุ่น
- คุณภาพการสีดี ได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวประมาณ 48%
- ขายได้ราคาสูงกว่าข้าวทั่วไป
ข้อควรระวังในการปลูกข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.1
- ในสภาพที่มีอากาศร้อนและความชื้นสูงจะไม่ต้านทานโรคไหม้
- มีระแง้เหนียวมาก การนวดโดยการฟาดข้าวทำได้ยาก หลังจากเก็บเกี่ยวควรตากข้าวในนา 3 – 4 วัน แล้วนวดด้วยเครื่องนวดทันที
- เมล็ดข้าวเปลือกเสื่อมความงอกเร็ว การเก็บเมล็ดพันธุ์ควรลดความชื้นเมล็ดให้เหลือ 8 – 10% และเก็บในภาชนะปิดผนึก
- ไม่ต้านทานโรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง และโรคใบสีส้ม
- ไม่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นสีเขียว และเพลี้ยกระโดดหลังขาว
2. ข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.2 (Khao’ Yipun DOA2)
ในปี พ.ศ. 2530 สถานีทดลองข้าวพานได้รวบรวมพันธุ์ข้าวญี่ปุ่นจากแหล่งต่างๆ และส่วนหนึ่งรับเมล็ด
พันธุ์ข้าวเพิ่มเติมจากอดีตผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านข้าว เพื่อนำไปปลูกขยายเมล็ดพันธุ์ และได้ทำการศึกษามา จนกระทั่งพบว่าพันธุ์อกิตะโกมาชิ (Akitakomachi) มีคุณภาพใกล้เคียงกับพันธุ์โคชิฮิการิ (Koshihikari) ซึ่งเป็นข้าวชั้น 1 ของญี่ปุ่น มีความเหมาะสมและปลูกได้ผลดีในเขตภาคเหนือตอนบน และให้ผลผลิต 707 กิโลกรัม ต่อไร่
ลักษณะของข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.2
- เป็นข้าวเจ้านาสวน ไม่ไวต่อช่วงแสง สูงประมาณ 80 เซนติเมตร
- อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 117 วัน
- ต้นแข็ง ทรงกอตั้งตรง ใบแก่ช้าสีเขียวและมีขน กาบใบและปล้องสีเขียว ใบธงค่อนข้างตั้งตรง รวงแน่น ระแง้ถี่คอรวงสั้น
- เมล็ดข้าวเปลือกสีฟาง มีขนสั้น ยอดเมล็ดสีฟาง มีหางบางเมล็ด
- เมล็ดข้าวกล้อง ยาว 5.13 มิลลิเมตร ที่ท้องไข่น้อย
- ปริมาณอมิโลส 15.6%
- เมล็ดข้าวเปลือก ยาว x กว้าง x หนา = 7.3 x 3.3 x 2.2 มิลลิเมตร
ลักษณะเด่นของข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.2
- ให้ผลผลิตสูงในสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์
- สามารถปรับตัวได้ดีในพื้นที่ดินนาเขตภาคเหนือตอนบน
- คุณภาพการสีดีมาก ได้ข้าวเต็มเมล็ดและต้นข้าวประมาณ 52%
- คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี ตรงตามมาตรฐาน สำหรับผู้บริโภคข้าวญี่ปุ่น
- ขายได้ราคาสูงกว่าข้าวทั่วไป
ข้อควรระวังในการปลูกข้าวพันธุ์ญี่ปุ่น กวก.2
- ในสภาพที่มีอากาศร้อนและความชื้นสูงจะไม่ต้านทานโรคไหม้
- มีระแง้เหนียวมาก การนวดโดยการฟาดข้าวแบบธรรมดาจะนวดยาก หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วควรตากข้าวในนา 3 – 4 วัน แล้วนวดด้วยเครื่องนวดทันที
- เมล็ดข้าวเปลือกเสื่อมความงอกเร็ว การเก็บเมล็ดพันธุ์ควรลดความชื้นเมล็ดให้เหลือ 8 – 10% และเก็บในปีบ หรือภาชนะที่สามารถปิดผนึกได้
- ไม่ต้านทานโรคไหม้ โรคใบสีส้มและโรคขอบใบแห้ง
- ไม่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยจักจั่นสีเขียว เพลี้ยกระโดดหลังขาว
รถเกี่ยวข้าวราคา.com เป็นศูนย์รวมรถเกี่ยวข้าวราคาถูก และอะไหล่รถเกี่ยวข้าวคุณภาพดี คุณสามารถเช็กราคารถเกี่ยวข้าวทุกรุ่นได้ ตั้งแต่รถเกี่ยวข้าวคูโบต้า ไปจนถึงรถเกี่ยวข้าวจ้าวช้างไวไฟ พร้อมให้คำปรึกษาทุกท่าน ฟรี! สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถเกี่ยวข้าว และอะไหล่รถเกี่ยวข้าว ติดต่อได้ที่ 062-424-1394
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.ricethailand.go.th/Rkb/varieties/index.php.htm