ถุงมือยางจากยางพารา กับความต้องการที่มากขึ้น

ถุงมือยางจากยางพารากับความต้องการที่มากขึ้น

ถุงมือยาง

ถุงมือยางที่เราพบเห็นกันบ่อยในปัจจุบันนี้ทำมาจากน้ำยางธรรมชาติ 100% ซึ่งมาจากต้นยางพารา หลังจากนั้นก็นำน้ำยางที่ได้จากต้นไปเข้ากระบวนการผลิตต่างๆ มากมาย กว่าจะได้มาเป็นถุงมือยางที่เราใช้กัน ซึ่งน้ำยางของไทยในปัจจุบันนั้นจะเน้นในเรื่องของการผลิตเพื่อมาใช้ประโยชน์เป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น รองเท้ายาง หนังยางรัดผม หรือแม้แต่ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของยางพารา เพราะสินค้าที่มีส่วนผสมของยาพารานั้นมีความเหนียวและมีความทนทานในการใช้งานที่สูงมาก ขั้นตอนและกระบวนการในการผลิตถุงมือยางนั้น เริ่มตั้งแต่การนำยางพารามาสกัดเพื่อให้ได้เนื้อที่ดีที่สุด และหลังจากนั้นก็จะใช้วิธีการจุ่มแบบพิมพ์เพื่อให้ออกมาเป็นถุงมือยาง และยังต้องผ่านกระบวนการอีกมายในการผลิตจนกว่าจะมาเป็นถุงมือยางให้เราใช้ในปัจจุบัน และที่สำคัญถุงมือยางที่ผลิตจากบ้านเรารวมไปถึงน้ำยางจากบ้านเรานั้นยังเป็นสินค้าที่ส่งออกไปยังหลายประเทศ สิ่งนี้การันตีได้เป็นอย่างดีว่าน้ำยางจากประเทศไทยนั้นมีคุณภาพสูงไม่แพ้ประเทศใดเลยทีเดียว

ปัจจุบันทั่วโลกมีความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ใช้ในทางการแพทย์ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ความต้องการในการใช้ถุงมือยางในวงการแพทย์สูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากถุงมือที่ใช้สำหรับทางการแพทย์แล้ว ถุงมือที่ใช้ในอุตสาหกรรมและถุงมือที่ใช้ในครัวเรือนนั้นก็มีความต้องกาการที่เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากจำนวนยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงมากขึ้นในทุกวันอย่างที่เราทราบกันดี ทำให้ประชาชนต่างต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตจากเดิมและคำนึงถึงสุขอนามัยมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ถุงมือในโรงงานเพื่อความสะอาดและป้องกันเชื้อโรคในกระบวนการการผลิตสินค้าต่าง ๆ หรือการใช้ภายในครัวเรือน การหยิบจับสิ่งของหรือรับพัสดุจากบุรุษไปรษณีย์ เป็นต้น

เมื่อมีความต้องการสูงการผลิตก็ย่อมต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่หากเจ้าของสวนยางมีประสบการณ์ไม่มากพอหรือศึกษาข้อมูลและวิธีการปฏิบัติมาไม่ดีพอ ก็จะส่งผลให้ต้นยางเสียหาย มีอายุการกรีดไม่นาน การเจริญเติบโตของต้นยางก็ไม่ดีตามไปด้วยและท้ายที่สุดทำให้ขายไม้ยางไม่ได้ราคาเมื่อต้องโค่นล้มเพื่อปลูกใหม่ ดังนั้นเกษตรกรเจ้าของสวนยางก็ควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนเพื่อให้ได้ยางพันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูง

            แต่หากท่านทำการโค่นไม้ยางและอยากที่จะนำไปขายต่อ ทาง Thai-A เรามีรถคีบไม้ เครื่องยนต์นำเข้า ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพสูง อย่าง Thai-A Max Logger รถคีบไม้ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้  ด้วยคุณสมบัติที่มีครบถ้วน ดังด้านล่างนี้เลยค่ะ

โครงปากคีบไม้ของรถคีบไม้ Thai-A Max Logger ทำมาจากเหล็กหนา จึงมีความแข็งแรงทนทาน สามารถคีบไม้หนัก ๆ ได้

รถคีบไม้แบบสามล้อนั้นสามารถหมุนรอบตัวเองได้ 360 องศา ซึ่งช่วยให้การทำงานของเกษตรกรรวดเร็วขึ้นถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับรถคีบธรรมดา เนื่องจากรถคีบไม้ 360 องศานี้ ไม่จำเป็นต้องเดินหน้าหรือถอยหลังในการเคลื่อนย้ายให้ยุ่งยาก

  • เครื่องยนต์ของรถคีบไม้ Thai-A มีประสิทธิภาพสูง

ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน โดยบริษัทเครื่องยนต์อันดับหนึ่งที่ทั่วโลกต่างไว้วางใจ อีกทั้งเครื่องยนต์นี้มีความประหยัดน้ำมัน ซึ่งใช้เพียง 2-4 ลิตร ต่อชั่วโมงเท่านั้น 

  • รถคีบไม้ Thai-A ใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนที่สำคัญจากแบรนด์ชั้นนำของโลก

ทั้งมีอะไหล่ที่หาง่าย และการซ่อมแซมที่ง่ายกว่าเครื่องจักรกลหนักชนิดอื่น ๆ

  • รถคีบไม้ Thai-A มีหัวคีบไม้ที่เป็นมอเตอร์ไฮดรอลิคแบบ Hydrostatic Transmission ช่วยในการวางแนวไม้ให้มีความเป็นระเบียบได้เป็นอย่างดี
มีความสุขในทุกการคีบด้วย MAX Cane Loader

Thai-A เรามีทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านในเรื่องของเครื่องจักรที่ใช้ในภาคเกษตรกรรมเกี่ยวกับพืช เช่น รถคีบไม้ รถตัดอ้อย รถคีบอ้อยและรถคีบก้อนใบอ้อย ภายใต้ยี่ห้อ แม็กส์ (MAX) ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการทุ่นแรง การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การเพิ่มคุณภาพ การแปรสภาพผลผลิตเกษตร

สนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถคีบไม้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 02-026-3854 , 081 721-0680

E-mail : webmaster@taecgroup.com

Facebook : thaiagency

Line ID : @thaiagency