ในการผลิตชิ้นงานพลาสติก โดยเฉพาะกระบวนการ ฉีดพลาสติก (Plastic Injection Molding) หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดคุณภาพของชิ้นงานคือ “เกรดเม็ดพลาสติก” ที่เลือกใช้ เพราะเม็ดพลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ทั้งในด้านความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ทนความร้อน หรือแม้แต่ความเงางามของผิวชิ้นงาน หากเลือกไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหา เช่น ชิ้นงานเสียรูป แตกหักง่าย หรือไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทของเกรดเม็ดพลาสติกต่าง ๆ และแนวทางเลือกให้เหมาะกับงานผลิตแต่ละประเภท เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในกระบวนการ ฉีดพลาสติก
- แก้ปัญหาความร้อนและไฟฟ้าในการฉีดพลาสติกเครื่องใช้ไฟฟ้า
- Warping ในงานฉีดพลาสติก คืออะไร แก้ยังไง?
- เปรียบเทียบการผลิตแบบฉีดพลาสติก VS วิธีการขึ้นรูปอื่น
1. เกรดเม็ดพลาสติกคืออะไร?
เกรดเม็ดพลาสติก (Plastic Grade) หมายถึง การจำแนกคุณสมบัติและคุณภาพของพลาสติกแต่ละชนิด เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น เกรดอุตสาหกรรม (Industrial Grade), เกรดอาหาร (Food Grade), หรือเกรดวิศวกรรม (Engineering Grade)
การเลือกเกรดที่ถูกต้อง ไม่เพียงช่วยให้ผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพ แต่ยังช่วยลดต้นทุน ลดของเสีย และยืดอายุการใช้งานของแม่พิมพ์ในกระบวนการ ฉีดพลาสติก
2. ประเภทเกรดเม็ดพลาสติกหลักที่นิยมใช้ในงานฉีดพลาสติก
2.1 พลาสติกทั่วไป (Commodity Plastics)
เป็นพลาสติกที่ใช้กันแพร่หลาย ราคาย่อมเยา เหมาะกับสินค้าที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมาก
- PP (Polypropylene)
น้ำหนักเบา ทนสารเคมี นิยมใช้ผลิตกล่องอาหาร ถังพลาสติก หรืออุปกรณ์ในครัวเรือน
→ จุดเด่น: ไหลตัวดีในกระบวนการ ฉีดพลาสติก, ทำสีง่าย - PE (Polyethylene)
มีทั้งแบบแข็งและแบบนุ่ม ใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ ขวด แกลลอน หรือฝาขวด
→ จุดเด่น: ยืดหยุ่นดี ไม่เปราะ - PS (Polystyrene)
มีความใสและเงางาม เหมาะกับงานตกแต่งภายในหรือบรรจุภัณฑ์
→ จุดด้อย: เปราะ แตกง่าย
2.2 พลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastics)
เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทาน แข็งแรง หรือมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ทนร้อน ทนแรงกระแทก
- ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene)
ทนแรงกระแทกสูง ขึ้นรูปง่าย ใช้ในงานเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี ตู้เย็น และชิ้นส่วนยานยนต์
→ จุดเด่น: ผิวสวย ฉีดขึ้นรูปง่าย - PC (Polycarbonate)
ใส แข็งแรง ทนแรงกระแทกสูง ใช้ในงานที่ต้องการความโปร่งใส เช่น แผ่นกันกระแทก ฝาครอบ หรือเลนส์ไฟรถยนต์
→ จุดเด่น: คงรูปดีแม้อุณหภูมิสูง - PA (Nylon)
มีความเหนียวและทนความร้อนได้ดี ใช้ในงานเฟืองหรือชิ้นส่วนเครื่องจักร
→ จุดเด่น: เหมาะกับงานที่มีแรงเสียดสี - POM (Polyacetal)
ใช้ทำชิ้นส่วนกลไก เช่น ลูกบิด เฟือง หรือแกนหมุน
→ จุดเด่น: ความแข็งแรงสูง ลื่น ไม่ดูดซึมน้ำ
2.3 พลาสติกเกรดพิเศษ (High-Performance Plastics)
กลุ่มนี้ใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ เช่น ทนอุณหภูมิสูง หรือมีความเสถียรทางเคมีสูง
- PBT / PET – ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และไฟฟ้า มีความคงรูปดี
- PEEK (Polyether Ether Ketone) – ใช้ในงานอากาศยาน การแพทย์ หรือเครื่องมือวิศวกรรมความแม่นยำสูง
- TPE / TPU – พลาสติกยืดหยุ่นคล้ายยาง ใช้ทำชิ้นส่วนกันกระแทกหรือซีลยาง
3. เกรดเม็ดพลาสติกกับอุตสาหกรรมการผลิตแต่ละประเภท
3.1 อุตสาหกรรมยานยนต์
ต้องการความแข็งแรง ทนร้อน และทนแรงสั่นสะเทือน
พลาสติกที่นิยม: ABS, PC, PBT, PA66, POM
→ ใช้ผลิตชิ้นส่วนในห้องเครื่อง ฝาครอบ และชิ้นส่วนตกแต่งภายใน
3.2 อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
เน้นผิวเรียบ สวยงาม ทนความร้อน และมีฉนวนไฟฟ้าดี
พลาสติกที่นิยม: ABS, HIPS, PC-ABS Blend, PP
→ ใช้ผลิตกล่องทีวี รีโมต เตารีด และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
3.3 อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และอาหาร
ต้องใช้เกรดที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค (Food Grade) และทนสารเคมี
พลาสติกที่นิยม: PP, HDPE, PET
→ ใช้ผลิตขวดน้ำ กล่องอาหาร และบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม
3.4 อุตสาหกรรมการแพทย์
ต้องใช้พลาสติกที่สะอาด ปลอดเชื้อ และทนต่อกระบวนการฆ่าเชื้อ
พลาสติกที่นิยม: PP, PC, PE, PEEK
→ ใช้ทำอุปกรณ์การแพทย์ เข็มฉีดยา และชิ้นส่วนเครื่องมือผ่าตัด
4. ปัจจัยในการเลือกเกรดเม็ดพลาสติกให้เหมาะกับการฉีดพลาสติก
4.1 คุณสมบัติทางกายภาพของชิ้นงาน
- หากต้องการความแข็งแรง → ใช้ ABS, PC หรือ Nylon
- หากต้องการความใส → ใช้ PC หรือ PMMA
- หากต้องการความยืดหยุ่น → ใช้ PP หรือ TPE
4.2 ความทนทานต่อสิ่งแวดล้อม
- งานกลางแจ้งควรใช้พลาสติกที่ทน UV เช่น ASA หรือ PC
- งานสัมผัสเคมีควรใช้ PP หรือ HDPE
4.3 ความเหมาะสมกับแม่พิมพ์และเครื่องฉีด
- พลาสติกบางชนิดต้องการอุณหภูมิสูง (เช่น PC)
- บางชนิดไหลตัวดี เหมาะกับแม่พิมพ์ซับซ้อน (เช่น ABS, PP)
4.4 ต้นทุนและปริมาณการผลิต
การเลือกเกรดเม็ดพลาสติกไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดเสมอไป ต้องดูความคุ้มค่ากับจำนวนชิ้นงานและมาตรฐานที่ต้องการ
5. เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดพลาสติก
- ทดลองฉีดตัวอย่างก่อนผลิตจริง เพื่อดูการไหลตัว การคงรูป และสีของชิ้นงาน
- ใช้เม็ดพลาสติกจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน เพื่อความคงที่ของคุณภาพ
- วิเคราะห์คุณสมบัติด้วยซอฟต์แวร์ Mold Flow เพื่อคาดการณ์ปัญหา เช่น การหดตัว หรือการบิดงอ (Warping)
- ร่วมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดพลาสติก เพื่อช่วยเลือกวัสดุที่เหมาะกับชิ้นงานและแม่พิมพ์ของคุณ
การเลือกเกรดเม็ดพลาสติกเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพ ความสวยงาม และความคุ้มค่าของการผลิต การเข้าใจคุณสมบัติของแต่ละเกรด ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการ ฉีดพลาสติก
หากคุณต้องการผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมใดก็ตาม ควรเลือกเกรดเม็ดพลาสติกที่เหมาะสม พร้อมทำงานร่วมกับโรงงานฉีดพลาสติกที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ เช่น Deemark Thailand ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาได้ตั้งแต่การออกแบบแม่พิมพ์ การเลือกวัสดุ ไปจนถึงกระบวนการผลิตจริงอย่างครบวงจร
DEEMARK INDUSTRY CO.,LTD
3/27 หมู่ 2 ซ.วัดศรีเรืองบุญ ถ.กาญจนาภิเษก
ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
email : sukhumlee@gmail.com
Phone : 02-985-1546, 081-844-8224
Fax : 02-984-1538
line : 081.844.8224




